ReadyPlanet.com
dot
ฐานข้อมูลกรมโยธาธิการและผังเมือง
กฎหมายเกี่ยวกับตรวจสอบอาคาร
ศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถตามมาตรา ๒๖/๔ (๒) สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร
bulletDownload Certificate Seminar Online & Onsite 2025




ระเบียบสภาวิศวกรว่าด้วยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๔๖
วันที่ 07/02/2015   17:09:45

ระเบียบสภาวิศวกร

ว่าด้วยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม

พ.ศ. ๒๕๔๖

-----------------------

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) มาตรา ๕๗ และมาตรา ๕๘ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยอนุมัติของคณะกรรมการสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๖ คณะกรรมการสภาวิศวกรจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสภาวิศวกร ว่าด้วยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมพ.ศ. ๒๕๔๖”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในระเบียบนี้

คณะอนุกรรมการไต่สวน หมายความว่า คณะอนุกรรมการซึ่งคณะกรรมการจรรยาบรรณแต่งตั้งขึ้นเพื่อทำการไต่สวน กรณีที่มีการกล่าวหาว่าผู้ได้รับใบอนุญาตประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม

คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง หมายความว่า คณะอนุกรรมการซึ่งคณะกรรมการจรรยาบรรณแต่งตั้งขึ้นเพื่อพิจารณากลั่นกรองเรื่อง กรณีที่มีการกล่าวหาว่าผู้ได้รับใบอนุญาตประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณ

ข้อกล่าวหา หมายความว่า เรื่องการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษตามมาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒

ผู้ถูกกล่าวหา หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษตามมาตรา ๕๑

ผู้กล่าวหา หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับความเสียหาย หรือพบการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม หรือกรรมการสภาวิศวกร หรือบุคคลอื่น และทำหนังสือกล่าวหาต่อสภาวิศวกร

เลขาธิการ หมายความว่า เลขาธิการสภาวิศวกร

หมวด ๑

การรับข้อกล่าวหา

-----------------------

ข้อ ๔ เมื่อสภาวิศวกรได้รับข้อกล่าวหาจากผู้กล่าวหา ให้เลขาธิการเสนอข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณโดยไม่ชักช้า

เลขาธิการอาจไม่รับข้อกล่าวหาไว้เพื่อพิจารณา ในกรณีข้อกล่าวหาเป็นบัตรสนเท่ห์หรือไม่ปรากฏชื่อผู้กล่าวหาในหนังสือกล่าวหา หรือผู้กล่าวหาไม่ยอมลงชื่อในบันทึกกล่าวหาเมื่อกล่าวหาด้วยตนเอง

ข้อ ๕ ให้คณะกรรมการจรรยาบรรณแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองจำนวนไม่น้อยกว่าสามคนเพื่อพิจารณาข้อกล่าวหาที่ได้รับจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ โดยประธานอนุกรรมการกลั่นกรองข้อกล่าวหา ต้องแต่งตั้งจากกรรมการในคณะกรรมการจรรยาบรรณ

การประชุมของคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ต้องมีอนุกรรมการกลั่นกรองประชุมจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนอนุกรรมการกลั่นกรองทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

เมื่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเห็นว่าข้อกล่าวหาใดเข้าข่ายการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม หรือมีข้อมูลอันควรได้รับการพิจารณา ให้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณเพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนตามที่เห็นสมควร ส่วนข้อกล่าวหาใดเห็นว่าไม่เข้าข่ายการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม หรือไม่มีมูลอันควรได้รับการพิจารณา ก็ให้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณเพื่อพิจารณาต่อไป

ข้อ ๖ ข้อกล่าวหาใดไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะไต่สวน และสภาวิศวกรไม่สามารถหาพยานหลักฐานได้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่สภาวิศวกรได้รับเรื่อง ให้ประธานกรรมการจรรยาบรรณมีหนังสือแจ้งจำหน่ายข้อกล่าวหานั้นให้เลขาธิการเพื่อพิจารณาต่อไป

หมวด ๒

ขั้นตอนและวิธีพิจารณาการไต่สวน

-----------------------

ข้อ ๗ เมื่อคณะกรรมการจรรยาบรรณได้รับข้อกล่าวหาจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแล้วให้ดำเนินการพิจารณา ถ้าเห็นว่าไม่เข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมหรือไม่มีมูลอันควรได้รับการพิจารณา ให้ประธานกรรมการจรรยาบรรณมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาแก่เลขาธิการเพื่อแจ้งผู้เกี่ยวข้องต่อไป

หากคณะกรรมการจรรยาบรรณเห็นว่าข้อกล่าวหาใดเข้าข่ายการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม หรือมีมูลอันควรได้รับการพิจารณา ให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยประธานอนุกรรมการไต่สวนต้องแต่งตั้งจากกรรมการในคณะกรรมการจรรยาบรรณ ซึ่งได้รับใบอนุญาต ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในสาขาเดียวกันกับผู้ถูกกล่าวหา เป็นประธานที่ไต่สวน และผู้ได้รับใบอนุญาตในระดับไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา ในสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมที่ไต่สวน เป็นอนุกรรมการไต่สวนอีกจํานวนไม่น้อยกว่าสองคนร่วมเป็นคณะอนุกรรมการไต่สวน

การประชุมของคณะอนุกรรมการไต่สวน ต้องมีอนุกรรมการไต่สวนมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนอนุกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

คำสั่งแต่งตั้งนั้นให้ทำเป็นคำสั่งคณะกรรมการจรรยาบรรณ และระบุตัวผู้ถูกกล่าวหานั้นด้วย

การไต่สวนผู้ได้รับใบอนุญาตที่เป็นนิติบุคคล ให้ทำการไต่สวนผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วน หรือผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นกรรมการของบริษัท หรือผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นสมาขิกในคณะผู้บริหารของนิติบุคคล หรือผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน หรือผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท หรือผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นผู้มีอำนาจบริหารแต่ผู้เดียวของนิติบุคคล

ข้อกล่าวหาใดปรากฏชัดแก่คณะกรรมการจรรยาบรรณว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณหรือประพฤติผิดจรรยาบรรณจริง คณะกรรมการจรรยาบรรณจะพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดโดยไม่แต่งตั้งคณะอนุกกรรมการไต่สวนก็ได้

ข้อ ๘ เมื่อคณะกรรมการจรรยาบรรณได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ให้ประธานกรรมการจรรยาบรรณมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้งส่งสำเนาหนังสือคำกล่าวหาและสำเนาคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนเริ่มการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวน และให้คณะอนุกรรมการไต่สวนนัดไต่สวนโดยเร็ว

ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิทำคำชี้แจง หรือนำพยานหลักฐานใดๆ ส่งให้คณะกรรมการจรรยาบรรณ หรือคณะอนุกรรมการไต่สวน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันได้รับแจ้งจากประธานกรรมการจรรยาบรรณ หรือภายในเวลาที่คณะกรรมการจรรยาบรรณกำหนด

ข้อ ๙ ผู้ถูกกล่าวหา อาจคัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการผู้ใดในคณะอนุกรรมการไต่สวน ถ้าปรากฎว่าอนุกรรมการคนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างหนึ่งอย่างใดในกรณีต่อไปนี้

(๑)     เป็นผู้มีส่วนได้เสียในข้อกล่าวหานั้น

(๒)     เป็นผู้มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา

ให้ผู้ถูกกล่าวหา ทำเป็นหนังสือแสดงเหตุผลที่คัดค้านนั้นยื่นต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณภายในสิบห้าวันนับแต่วันได้รับแจ้งข้อกล่าวหาจากประธานกรรมการจรรยาบรรณ ตามข้อ ๘

เมื่อประธานกรรมการจรรยาบรรณได้รับเรื่องการคัดค้านอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ให้เรียกประชุมคณะกรรมการจรรยาบรรณ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการคัดค้านนั้นมีเหตุผลฟังได้ ให้สั่งเปลี่ยนแปลงคณะอนุกรรมการไต่สวนตามควรแต่กรณีโดยด่วน แต่ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าการคัดค้านนั้นไม่มีเหตุผลอันควรฟังได้ ก็ให้สั่งยกคำคัดค้านนั้นเสีย ในกรณีนี้ให้บันทึกเหตุผลนั้นไว้ในสำนวนการไต่สวนด้วย

ข้อ ๑๐ เมื่อได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ถ้ามีเหตุสมควรหรือจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวอนุกรรมการไต่สวน หรือต้องแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มขึ้น ให้คณะกรรมการจรรยาบรรณออกคำสั่งเปลี่ยนตัวอนุกรรมการไต่สวน หรือแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มขึ้นแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ให้ดำเนินการตามข้อ ๗ โดยอนุโลม แล้วแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบด้วย

การเปลี่ยนตัวอนุกรรมการไต่สวน หรือแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มขึ้นดังกล่าวนี้ไม่มีผลกระทบต่อการไต่สวนที่ได้ดำเนินการไปก่อนแล้ว

ข้อ ๑๑ เมื่อประธานอนุกรรมการไต่สวนได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ให้บันทึกวัน เดือน ปี ที่ได้รับทราบคำสั่งนั้นไว้ในสำนวนการไต่สวน แล้วให้รีบไต่สวนให้เสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง ถ้าเห็นว่าการไต่สวนไม่ทันกำหนดก็ให้เสนอคณะกรรมการจรรยาบรรณ พิจารณาขยายเวลาการไต่สวนออกไปอีก ครั้งละไม่เกินหกสิบวัน แต่ห้ามมิให้ขยายเวลาการไต่สวนเกินกว่าสามครั้ง

เมื่อคณะอนุกรรมการไต่สวนไต่สวนเสร็จแล้ว ให้สรุปผลการไต่สวนเสนอต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณเพื่อพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด ดังต่อไปนี้

(๑)     ยกข้อกล่าวหา

(๒)     ตักเตือน

(๓)     ภาคทัณฑ์ มีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมาควรแต่ไม่เกินห้าปี

(๔)     พักใช้ใบอนุญาต มีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควรแต่ไม่เกินห้าปี

(๕)     เพิกถอนใบอนุญาต

ข้อ ๑๒ ถ้าปรากฏจากการไต่สวนว่าผู้ถูกกล่าวหาประพฤติผิดในเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเดิม ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนไต่สวนในเรื่องดังกล่าวด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเดิม ให้ประธานอนุกรรมการไต่สวนรายงานต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณเพื่อคณะกรรมการจรรยาบรรณจะพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนชุดใหม่ ไต่สวนเรื่องนั้นๆ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ เพื่อแก้ข้อกล่าวหานั้นๆ ตามวิธีการในข้อ ๘

ข้อ ๑๓ กรณีที่การไต่สวนมีมูลพาดพิงถึงผู้ได้รับอนุญาตอื่น ที่มิได้ระบุตัวเป็นผู้ถูกกล่าวหา ตามคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนั้น ว่าเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมกระทำผิดฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิศวกรรม ให้ประธานอนุกรรมการไต่สวนรีบรายงานคณะกรรมการจรรยาบรรณเพื่อพิจารณาต่อไป

เมื่อคณะกรรมการจรรยาบรรณพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตตามวรรคแรกเข้าข่ายมีส่วนร่วมกระทำผิด ให้คณะกรรมการจรรยาบรรณแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนไต่สวนผู้ไดรับใบอนุญาตนั้น โดยจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนชุดเดิมหรือชุดใหม่ก็ได้ ทั้งนี้ให้ดำเนินการตามข้อ ๗ และข้อ ๘ กรณีเช่นว่านี้ให้ใช้พยานหลักฐานที่ดำเนินการไต่สวนมาแล้วนั้น ประกอบการพิจารณาความผิดของผู้มีส่วนร่วมประพฤติผิดนั้นได้ ตามแต่คณะอนุกรรมการไต่สวนจะเห็นสมควร

ข้อ ๑๔ การไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนแจ้งข้อกล่าวหาเท่าที่ปรากฏให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ และให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ตลอดจนนำพยานหลักฐานมาสืบแก้ข้อกล่าวหา ตามควรแก่กรณีในเวลาอันสมควร

ผู้ถูกกล่าวหาจะนำพยานหลักฐานมาเอง หรือจะขอให้คณะอนุกรรมการไต่สวนเรียกพยานหลักฐานนั้นมาก็ได้

ข้อ ๑๕ การชี้แจงข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาอาจให้ถ้อยคำ หรือทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรลงลายมือชื่อยื่นต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนได้

คณะอนุกรรมการไต่สวนมีอำนาจให้ผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงข้อกล่าวหาได้ตามที่เห็นสมควรภายในเวลาที่กำหนด

ข้อ ๑๖ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการจรรยาบรรณและไม่ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในเวลาที่กำหนด ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนินการไต่สวนไปโดยไม่ต้องไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา แต่ต้องบันทึกเหตุนั้นไว้ในสำนวนการไต่สวนด้วย

ข้อ ๑๗ การไต่สวนปากคำผู้ถูกกล่าวหา หรือพยาน ให้บันทึกถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วอ่านให้ผู้ให้ถ้อยคำฟัง เมื่อรับว่าถูกต้องแล้วให้ลงลายมือชื่อไว้ ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนที่นั่งไต่สวนในขณะนั้นทุกคนลงลายมือชื่อกำกับไว้ด้วย ถ้าผู้ให้ถ้อยคำไม่สามารถหรือไม่ยอมลงลายมือชื่อก็ให้บันทึกเหตุนั้นไว้

ข้อ ๑๘ ถ้าผู้ถูกกล่าวหา ยื่นคำชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่ไต่สวนนั้นต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือต่อประธานกรรมการจรรยาบรรณ ก่อนคณะกรรมการจรรยาบรรณมีการวินิจฉัยข้อกล่าวหา ให้คณะอนุกรรมการไต่สวน หรือประธานกรรมการจรรยาบรรณรับคำชี้แจงนั้นเข้าสำนวนเรื่องไว้พิจารณาด้วย

ข้อ ๑๙ การไต่สวนทุกครั้ง ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธินำทนายความหรือที่ปรึกษาของตนเข้ามาในการไต่สวนได้ และการใดที่ทนายความหรือที่ปรึกษาได้กระทำลงต่อหน้าคณะกรรมการจรรยาบรรณ หรือคณะอนุกรรมการไต่สวน ให้ถือว่าเป็นการกระทำของผู้ถูกกล่าวหา เว้นเสียแต่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะได้คัดค้านเสียในขณะนั้น

ข้อ ๒๐ การไต่สวนพยาน ถ้าพยานไม่มาหรือไม่ยอมให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือคณะอนุกรรมการไต่สวนเรียกพยานไม่ได้ภายในกำหนดเวลาอันสมควร คณะอนุกรรมการไต่สวนจะไม่ไต่สวนพยานนั้นก็ได้ แต่ต้องบันทึกเหตุผลไว้ในสำนวนการไต่สวนด้วย ทั้งนี้เว้นแต่ คณะอนุกรรมการไต่สวนเห็นว่ามีเหตุอันสมควร ที่พยานไม่สามารถมาได้ตามกำหนด หรือได้ตัวพยานมาให้ถ้อยคำก่อนการไต่สวนจะสิ้นสุดลง ก็อาจไต่สวนพยานนั้นได้ตามควรแก่กรณี

ข้อ ๒๑ ในการไต่สวนพยาน ถ้าคณะอนุกรรมการไต่สวนเห็นว่าการไต่สวนพยานนั้นจะทำให้การไต่สวนล่าช้าโดยไม่จำเป็น หรือไม่ใช่ประเด็นสำคัญ คณะอนุกรรมการไต่สวนจะงดการไต่สวนพยานนั้นก็ได้ แต่ต้องบันทึกเหตุนั้นไว้ในสำนวนการไต่สวนด้วย

ข้อ ๒๒ ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนรวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่สามารถจะทำได้เพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันเกี่ยวกับข้อกล่าวหา

ข้อ ๒๓ กรณีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดชี้ขาดเกี่ยวกับผู้กล่าวหาใด ถ้าคณะอนุกรรมการไต่สวนเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษานั้นได้ความประจักษ์ชัดอยู่แล้ว คณะอนุกรรมการไต่สวนจะฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษานั้น โดยไม่ไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา หรือพยาน ก็ได้

ข้อ ๒๔ เมื่อการไต่สวนเสร็จแล้ว ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนทำรายงานสรุปผลการไต่สวนพร้อมทั้งข้อเท็จจริง พร้อมแสดงความคิดเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหา ประพฤติผิดกฎหมายหรือจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม ฐานใด มาตราใด หรือไม่ ถ้าประพฤติผิดสมควรลงโทษสถานใด เสนอต่อประธานกรรมการจรรยายรรณ พร้อมทั้งสำนวนการไต่สวน ถ้าอนุกรรมการไต่สวนคนใดมีความเห็นแย้งให้ทำบันทึกความเห็นแย้งติดไว้ในสำนวนการไต่สวนด้วย

ถ้าคณะกรรมการจรรยาบรรณเห็นควรให้ไต่สวนเพิ่มเติมประการใด ให้สั่งคณะอนุกรรมการไต่สวนไต่สวนเพิ่มได้ตามความจำเป็น

ข้อ ๒๕ การไต่สวนตอนใดที่ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และวิธีการตามระเบียบนี้ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่ทำให้สำนวนการไต่สวนทั้งหมดเสียไป ในกรณีเช่นนี้คณะกรรมการจรรยาบรรณจะสั่งให้ดำเนินการเสียใหม่เฉพาะตอนที่ไม่ถูกต้องก็ได้ แต่ถ้าการไต่สวนตอนนั้นเป็นสาระสำคัญ คณะกรรมการจรรยาบรรณจะสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเฉพาะตอนนั้นหรือทั้งหมดก็ได้

หมวด ๓

คำวินิจฉัยชี้ขาด การแจ้งผล และการนับระยะเวลา

-----------------------

ข้อ ๒๖ เมื่อคณะกรรมการจรรยาบรรณได้รับรายงานไต่สวนสรุปข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว คณะกรรมการจรรยาบรรณมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด ต่อไปนี้

(๑)     ยกข้อกล่าวหา

(๒)     ตักเตือน

(๓)     ภาคทัณฑ์ มีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมาควรแต่ไม่เกินห้าปี

(๔)     พักใช้ใบอนุญาต มีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควรแต่ไม่เกินห้าปี

(๕)     เพิกถอนใบอนุญาต

ในการนี้คณะกรรมการจรรยาบรรณมีอำนาจเชิญผู้ถูกกล่าวหา และผู้เกี่ยวข้องอื่นใดมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมก็ได้

การที่คณะกรรมการจรรยาบรรณมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ยกข้อกล่าวหา ให้เลขาธิการแจ้งผลการพิจารณาพร้อมคำวินิจฉัยให้ผู้ถูกกล่าวหาและผู้เกี่ยวข้องทราบ

ข้อ ๒๗ กรณีที่คณะกรรมการจรรยาบรรณมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนุญาต ให้เลขาธิการแจ้งผลการพิจารณาพร้อมคำวินิจฉัยให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ และแจ้งผู้ถูกกล่าวหานั้น ว่ามีสิทธิในการอุทธรณ์คำวินิจฉัยชี้ขาดนั้นต่อคณะกรรมการสภาวิศวกรภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับคำวินิจฉัย ถ้าเป็นคำวินิจฉัยให้พักใช้ใบอนุญาต หรือให้เพิกถอนใบอนุญาต ให้เลาธิการเรียกใบอนุญาตและวุฒิบัตร ถ้ามี คืนแก่สภาวิศวกรภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัยชี้ขาด

ให้คำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการจรรยาบรรณ มีผลบังคับใช้นับแต่วันที่คณะกรรมการจรรยาบรรณวินิจฉัยชี้ขาด ถ้ามีการอุทธรณ์คำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการจรรยาบรรณ เมื่อคณะกรรมการสภาวิศวกรมีมติอย่างใดแล้ว ให้มีผลบังคับตามมติของคณะกรรมการ

ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

 

 

 

 

                                                                                       ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๓

                                                                                                               อรุณ ชัยเสรี

                                                                                                           นายกสภาวิศวกร

 

เล่ม ๑๑๗ ตอนพิเศษ ๑๓๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๓

 




กฎหมาย




Copyright © 2012 All Rights Reserved.


  

 

สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร | THE BUILDING INSPECTORS ASSOCIATION
เลขที่ 487 ซ.รามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) ถ.รามคำแหง
แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์: 0-2184-4612   โทรสาร: 0-2184-4613
http://www.bsa.or.th